รีวิว ท่องเที่ยวโครเอเชีย ตอนที่1 จุดหมายแรก Fazana เมืองริมหาด และ สวนมะกอก
โครเอเชีย ดินแดนแห่งเมดิเตอร์เรเนียน
หลังจากที่จขบ.ได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยว 10 วัน ในประเทศโครเอเชียช่วงเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมาจึงอยากจะ รีวิวท่องเที่ยวโครเอเชีย เพื่อเป็นประโยชน์ และ แบ่งปันข้อมูลดีๆให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางไปท่องเที่ยวในดินแดนเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้
โครเอเชีย มีที่ตั้งอยู่ทางใต้ของยุโรป ทอดตัวยาวครอบคลุมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้โครเอเชียมีชายหาดอยู่มากมาย และอากาศอบอุ่นกว่าหลายๆประเทศในยุโรป จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างมาก นอกจากอากาศอบอุ่น และ ชายหาดที่สวยงามแล้ว โครเอเชียยังถือว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิ์โรมัน ในหลายๆเมืองของโครเอเชียยังมีย่านเมืองเก่าที่คงความเป็นเอกลักษณ์มาจนถึงยุคปัจจุบัน
การเตรียมตัวเดินทางไปโครเอเชีย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยต้องขอวีซ่าโครเอเชีย ( สามารถดูรายละเอียดได้ที่ ขอวีซ่าโครเอเชีย ) หรือวีซ่าเชงเก้นก็สามารถใช้ได้ถ้าเป็น Double entry หรือ Multiple entry.
ค่าใช้จ่าย โครเอเชียใช้เงินสกุล คูนา (Kuna) นักท่องเที่ยวควรพกเงินสกุลยูโร เพื่อความสะดวกในการแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลคูนา ( 1 ยูโร จะเท่ากับ 7 คูนา โดยประมาณ ) ราคาอาหารในโครเอเชียตามร้านอาหารทั่วไปจะอยู่ที่ 50 - 200 คูนา และ ราคาเครื่องดื่มในหลายๆแห่ง เบียร์มีราคาถูกกว่าน้ำเปล่า ซะอย่างนั้น 😂😂
การสื่อสาร โครเอเชียมีภาษาเป็นของตัวเอง แต่เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ผู้คน และ ร้านค้าต่างๆสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ทำให้การสื่อสารไม่เป็นอุปสรรค์ และมีความสะดวกสบายในการจับจ่ายซื้อสินค้า หรือ สอบถามข้อมูลต่างๆอย่างมาก
เมืองที่ 1 Fazana เมืองริมหาด และ สวนมะกอก
และเนื่องจากหาดเต็มไปด้วยหินนี่เอง ทำให้เวลาลงเล่นน้ำต้องสวมรองเท้า โดยรองเท้ามีลักษณะคล้ายรองเท้าผ้าใบ แต่ระบายน้ำและอากาศได้ดีมาก จขบ.ลองใส่เดินรอบเมืองก็ถือว่าใส่สบายเลยทีเดียว ราคาอยู่ราวๆ 200 - 400 คูนา หาซื้อได้ทั่วไปในโครเอเชีย
ร้านค้าในฟาซาน่ามีมากมายทั้งริมหาด และ ในตัวเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก มีตรอกซอยเล็กๆที่สวยงาม และสามารถเดินทะลุถึงกันได้อย่างไม่ต้องกลัวหลง ในแต่ละตรอกจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายน้ำมันมะกอก และน้ำผึ้งที่ชาวเมืองผลิตเองวางจำหน่ายอยู่
ริมชายหาดของฟาซาน่า นอกจากจะมีบาร์ริมทะเลให้นั่งดื่มรับลมชิลล์ๆแล้ว ยังมีสวนมะกอกขนาดใหญ่อยู่ นักท่องเที่ยวส่วนมากจะเป็นชาวยุโรปที่นิยมมาอาบแดด ปิคนิค หรือเล่นกีฬาทางน้ำ และสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจไปเยี่ยมชมเกาะอื่นๆ ที่นี่ยังมีท่าเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะ Brijuni อยู่ด้วย
หลังจากเที่ยวชมเมืองฟาซาน่าอยู่หลายวัน จขบ.ก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวอีก 3 เมืองด้วยกัน คือ Rovinj, Pula และ Porec ซึ่งแต่ละเมืองก็มีเอกลักษณ์ และความสวยงามแตกต่างกันไป ซึ่งจะมารีวิวในโพสต์หน้า วันนี้ขอจบโพสต์ด้วยภาพนี้เป็นภาพสุดท้าย (เพราะน้ำเข้ากล้อง 😂)
อ่านตอนที่2 ได้ที่ เที่ยวเมืองแห่งอารยธรรม Pula, Rovinj และ Porec
ขอขอบคุณคุณครูที่ช่วยอบรมเด็กดี
ราตรีสวัสดิ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น